วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหิดล และ บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย จัดเวิร์คช็อป “The Art of Sound Creation” ครั้งแรกในไทย ให้ความรู้การสร้างเสียงและดนตรีเพื่องานโฆษณาระดับโลก

หลักสูตรสื่อและการสื่อสาร (Media and Communication) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และบริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง  ประเทศไทย  จัด “The Art of Sound Creation” เวิร์คช็อประดับมาสเตอร์คลาส ครั้งแรกของเมืองไทย ที่มีกูรูด้านการสร้างสรรค์โฆษณาและประพันธ์ดนตรีทั้งระดับประเทศและระดับโลกมารวมตัวกัน เพื่อมอบความรู้และทักษะการสร้างเสียงและดนตรีเพื่อการแข่งขันสร้างสรรค์งานโฆษณาระดับโลก

ผศ.ดร.วรรณ์ขวัญ พลจันทร์ หัวหน้าหลักสูตรสื่อและการสื่อสาร (Media and Communication) วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า “การจัดงานในปีนี้ เริ่มจากการที่นักศึกษาเห็นความสำคัญของการสร้างเสียงและดนตรีเพื่องานลักษณะต่างๆ ทั้งโฆษณา หนัง และทีวี จากวิชา Event Management เด็กต้องรู้จักสร้างเนื้อหาของอีเว้นท์ได้ด้วยตนเอง รวมถึงสิ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการมากที่สุดในวงการโฆษณาตอนนี้ คืองานดนตรีและการประพันธ์ดนตรีและออกแบบเสียงเพื่องานโฆษณา”

จุดเด่นของการจัดปีนี้ คือการให้ความรู้เพื่อผสานงานด้านเสียงและดนตรีให้เข้ากับงานโฆษณาอย่างลงตัว ซึ่งโอกิลวี่เห็นความสำคัญอย่างมาก จึงได้เข้าร่วมเวิร์คช็อปนี้ ที่เป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้นักดนตรีและนักประพันธ์ที่เข้าร่วมงานเข้าใจได้ว่า วงการโฆษณาต้องการอะไรจากการสร้างเสียงและดนตรี โดยในการเวิรค์ช็อปได้มีการเชิญ ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา จาก บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย รวมทั้งกูรูมือ 1 ของการประพันธ์ดนตรีระดับโลกอย่าง Kevan Frost ที่มีความเชี่ยวชาญมากกับการใช้ดนตรีเพื่อขับเคลื่อนและสื่อเนื้อหาให้ผู้คนรู้สึกจับต้องได้ มีผลงานระดับอินเตอร์ประพันธ์เพลงให้กับ BBC เป็นนักแต่งเพลงและ Producer ให้กับศิลปินระดับสากลหลายคน อาทิ Boy George Gloria Gaynor หรือแม้กระทั่ง Mark Ronson ซึ่งล่าสุดเพิ่งทำเพลงร่วมกับ Bruno Mars

และยังได้เชิญ รพีเดช กุลบุศย์ และ Jake Craig จาก Studio 28 ซึ่งเป็น Recording Studio ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และมีทีมผลิตงานเพลง (produce) ที่ชนะการแข่งขันเสนองานจนได้โอกาสสร้างสรรค์ระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งสองคนจะมาร่วมให้ความรู้และตอบข้อซักถามจากผู้ร่วมงานในเวิร์คช็อปนี้

ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา จาก บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “โอกิลวี่เล็งเห็นว่า The Art of Sound Creation เป็นเวิร์คชอปที่ช่วยให้เห็นว่าการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้นั้น เสียงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาพและตัวอักษรเลย เสียงสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าตราสินค้าได้ ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ เพราะประสาทสัมผัส “รับฟัง” มีส่วนช่วย

และยังได้เชิญ รพีเดช กุลบุศย์ และ Jake Craig จาก Studio 28 ซึ่งเป็น Recording Studio ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และมีทีมผลิตงานเพลง (produce) ที่ชนะการแข่งขันเสนองานจนได้โอกาสสร้างสรรค์ระดับโลกมาแล้วมากมาย ทั้งสองคนจะมาร่วมให้ความรู้และตอบข้อซักถามจากผู้ร่วมงานในเวิร์คช็อปนี้

ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา จาก บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย กล่าวว่า “โอกิลวี่เล็งเห็นว่า “The Art of Sound Creation” เป็นเวิร์คชอปที่ช่วยให้เห็นว่าการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำได้นั้น เสียงมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาพและตัวอักษรเลย เสียงสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าตราสินค้าได้ ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ เพราะประสาทสัมผัส “รับฟัง” มีส่วนช่วย

ให้เกิดการซึมซับได้มากกว่า ซึ่งกลยุทธ์การสร้างเสียงเพลงให้เหมาะกับตราสินค้า บางครั้งเสียงสามารถ เชิญชวนและสร้างอารมณ์ ได้มากกว่าภาพ และเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการสร้างแบรนด์ระดับโลก แต่ศาสตร์การใช้เสียงเช่นนี้ บุคลากรไทยยังมีความรู้และความเชี่ยวชาญน้อย”

“โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย ให้ความสำคัญที่จะสนับสนุน แบ่งปันประสบการณ์การทำงานเรื่องการสร้างการจดจำแบรนด์ผ่านเสียงจากภาพยนตร์โฆษณาทั้งในระดับประเทศและต่าง ประเทศในเวิร์คชอปครั้งนี้ จะได้มีส่วนช่วยให้บุคลากรไทยทางศาสตร์นี้ เปิดโลกทัศน์และมีความเข้าใจในศาสตร์แห่งเสียง เพื่อการสร้างการจดจำแบรนด์มากยิ่งขึ้น และมีโอกาสก้าวไกลไปแข่งขันสร้างสรรรค์ผลงานได้ทั้งระดับประเทศ และระดับโลกต่อไป” ยุทธพงศ์กล่าวเพิ่มเติม

“ประโยชน์จากการจัดงานครั้งนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นประโยชนสำหรับนักศึกษา ที่มีโอกาสเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง ช่วยให้เด็กมีโอกาสเติบโตแบบก้าวกระโดด และค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถที่จะทำสิ่งใดได้หรือไม่ได้ ซึ่งแนวทางนี้ยังไม่มีในวิชาแนะแนวของไทย ที่จะให้โอกาสเด็กได้เรียนรู้จากการลงมือทำจริง จะได้ค้นพบด้วยตัวเองถึงความชอบ ความถนัด และความสามารถของตนเอง รู้จักคุณค่าของตนเองจากการได้มีโอกาสลงมือทำงานจริง จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา

ส่วนประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมงาน คือ ได้มาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงว่า ไม่ใช่เรื่องยากที่นักดนตรีและนักออกแบบเสียงจะได้รับชัยชนะในการแข่งขันเสนอขายงาน เพียงแต่ต้องเข้าใจว่าถึงความต้องการของลูกค้า และต้องมีกลวิธีที่สร้างสำนึกในสื่ออื่นๆ มากกว่าเสียงดนตรี แล้วก็ต้องหาวิธีทำงานร่วมกับเนื้อหาอื่นที่ไม่ใช่เสียงเพลงให้ได้” ผศ.ดร.วรรณ์ขวัญ กล่าวสรุป

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีการบรรยายโดย 4 ผู้เชี่ยวชาญ ยุทธพงศ์ วรานุเคราะห์โชค ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณา จาก บริษัท โอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง ประเทศไทย Kevan Frost มือรางวัลชาวอังกฤษ ในด้านการประพันธ์ดนตรี และโปรดิวเซอร์ของศิลปินระดับโลก รพีเดช        กุลบุศย์ นักประพันธ์เพลง โปรดิวเซอร์ และ Jake Craig Sound Engineer จาก Studio 28 ผู้ที่มีประสบการณ์ในวงการภาพยนตร์เพลงและเสียงมากว่า 13 ปี

โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรม 5 คนแรกที่ส่งคลิปที่ตนเองประพันธ์มา Kevan Frost จะช่วยแสดงความคิดเห็น พร้อมคำติชมให้ด้วย และภายในงานมีการแปลคำบรรยายเป็นภาษาไทย และผู้เข้าเวิร์คช็อปที่ได้เข้าร่วม Networking Session จะได้สานสัมพันธ์ สร้างเครือข่ายกับกูรูด้านโฆษณาและดนตรีทั้งระดับชาติ และระดับสากลอีกด้วย

เราเชื่อว่าเวิร์คช็อป “The Art of Sound Creation” จะช่วยเปิดโลกทัศน์ ให้เห็นถึงแนวทางและวิธีการเพื่อผสมผสานงานประพันธ์ดนตรี และการสร้างเสียงให้เข้ากับงานโฆษณาได้อย่างลงตัว