TIJ จัดประชุมอาเซียนด้านยุติธรรมอาญา ACCPCJ ครั้งที่ 2 เสริมวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน สร้างนวัตกรรมแห่งความยุติธรรมเพื่อทุกคน

การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญาเป็นประเด็นที่ประชาคมอาเซียนให้ความสำคัญเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่แนวโน้มของอาชญากรรมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือ
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ส่งผลให้เกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ท้าทายความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมในภูมิภาคอาเซียน ในการนี้ สถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) ในฐานะองค์กรประสานการจัดการประชุมอาเซียนว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (The ASEAN Conference on Crime Prevention and Criminal JusticeACCPCJ) จึงได้จัดการประชุม ACCPCJ ครั้งที่ 2 ขึ้น ระหว่างวันที่27 -28 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา ภายใต้ธีม “การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมทางยุติธรรมเพื่อทุกคน” (Promoting the ASEAN Culture of Prevention for a Collaborative and Innovative Justice for All) โดยมุ่งประเด็นการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cyber Crime)  

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดการประชุม เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 และพระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุมความว่า “อาชญากรรมไซเบอร์มีการพัฒนารูปแบบและความซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากหลายคดีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เช่น การแสวงประโยชน์ทางเพศจากเด็กผ่านช่องทางออนไลน์ และการฉ้อโกงทางเศรษฐกิจ ด้วยความเร็วและการแพร่กระจายของอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นในประเทศสมาชิกอาเซียน ส่งผลให้อาชญากรรมที่มีรูปแบบซับซ้อนนี้มีความเสี่ยงจะสร้างความเสียหายต่อประชากรของเราในอัตราที่น่าตกใจ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีนโยบายการป้องกันจากต้นน้ำที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อความเสี่ยงดังกล่าว

 

 

 

เราต้องเสริมความแข็งแกร่งในการร่วมมือระหว่างพันธมิตรและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับอาชญากรรมไซเบอร์อย่างสอดประสานกัน”

 

การประชุมระดับอาเซียน ACCPCJ ครั้งที่ 2 นี้ ได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ และหน่วยงานสำคัญในประเทศสมาชิกอาเซียน ทั้งผู้แทนจากสำนักงานเลขาธิการอาเซียน (ASEAN Secretariat) เจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านกฎหมาย (ASLOM) ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ (SOMTC) คณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (SOCA) ตลอดจนผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติงาน และนักวิชาการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม
ได้ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ประสบการณ์ และแนวทางการปฏิบัติที่ดีระหว่างประเทศสมาชิก ส่งเสริมความร่วมมือทางกฎหมายการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินงานด้านความยุติธรรมทางอาญาอย่างบูรณาการ และสนับสนุนการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนอย่างยั่งยืน

การสร้างสังคมอาเซียนที่สงบสุข มั่งคั่ง และมีความเท่าเทียมกัน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการประสานการทำงานระหว่างเสาหลักทั้งสามเสาของประชาคมอาเซียน ได้แก่ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน การประชุมในครั้งนี้จึงมีหัวข้อหลักของการประชุมคือ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมทางยุติธรรมเพื่อทุกคน (Promoting the ASEAN Culture of Prevention for a Collaborative and Innovative Justice for All) และยังมีการเสวนาในหัวข้อความท้าทายของอาชญากรรมไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน (Cybercrime Challenges in the ASEAN Region) ซึ่งเป็นประเด็นที่ท้าทายกระบวนการยุติธรรมอยู่ในขณะนี้

 

“หลายปีที่ผ่านมา อัตราการเกิดอาชญากรรมไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น อาชญากรต่างก็เสาะหาช่องว่างและปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการก่ออาชญากรรม ประเด็นอาชญากรรมไซเบอร์จึงถือเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องอาศัย
ความร่วมมือระหว่างประเทศในการจัดการ” ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย หรือ TIJ กล่าว และชี้ว่า “ACCPCJ ครั้งที่ 2 นี้จะช่วยส่งเสริมการรับรู้และความเข้าใจปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างลึกซึ้ง และยังเป็นเวทีเดียวที่ผู้นำระดับสูงของอาเซียนและภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมได้มาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์ในการป้องกันและต่อสู้กับปัญหาดังกล่าวจากหลากหลายมุมมอง”

ในการประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยการอภิปรายใน 2 หัวข้อใหญ่ ได้แก่ “การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมยุติธรรมเพื่อทุกคน” และ “ความท้าทายของอาชญากรรมไซเบอร์ในภูมิภาคอาเซียน” และการอภิปรายใน 3 หัวข้อหลักที่มุ่งเน้นการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ ได้แก่

 

  • หัวข้อหลัก 1 : วัฒนธรรมแห่งการป้องกัน (Culture of Prevention)
  • การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและนวัตกรรมทางยุติธรรมเพื่อทุกคน (Promoting Prevention through a Culture of Good Governance and Respect)
  • การส่งเสริมการป้องกันอาชญากรรมด้วยวัฒนธรรมแห่งสันติภาพและทางสายกลาง (Promoting Prevention through a Culture of Peace and Moderation)
  • หัวข้อหลัก 2 : กฎหมายและความยุติธรรม (Law and Justice)
  • ความร่วมมือนานาชาติว่าด้วยเรื่องอาชญากรรม (International Cooperation in Criminal Matters)
  • กรอบแนวทางการกำหนดกฎหมายและนโยบายระดับชาติ (National Legislative Framework)
  • หัวข้อหลัก 3 : นวัตกรรมและความร่วมมือ (Innovation and Collaboration)
  • การร่วมมือกันสร้างเสริมศักยภาพบุคลากรอาเซียน (Promoting Capacity Building through Partnership)
  • โอกาสและความท้าทายในยุคอุตสาหกรรม 4.0 (Opportunities and Challenges of Industry 4.0)

 

นอกจากนี้ ระหว่างการประชุมดังกล่าว TIJ ยังได้จัดการเสวนาเยาวชน (TIJ Youth Forum) คู่ขนาน
ในวันที่ 25-29 กุมภาพันธ์ เพื่อเสริมบทบาทของเยาวชนคนรุ่นใหม่ในภูมิภาคอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วภูมิภาคเข้ามาทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นปัญหาในสังคม ในธีมที่สอดคล้องกับการประชุม ACCPCJ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของอาชญากรรมไซเบอร์ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลกอย่างไร้พรมแดน โดยใช้เครื่องมือ

 

 

การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในการแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญในสังคม ตลอดจนใช้วิธีการคิดแบบ Foresight Design Thinking มาคาดการณ์ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อร่วมกันหาทางป้องกันด้วย

 

ทั้งนี้ TIJ จะนำผลจากการประชุม ACCPCJ ครั้งที่ 2 และ TIJ Youth Forum นำเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงาน

เรื่องวัฒนธรรมแห่งการป้องกัน และหน่วยงานอาเซียนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นองค์ความรู้ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือการวางแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เพื่อความร่วมมือทางอาญาในประชาคมอาเซียนที่ดียิ่งขึ้น