กรมการพัฒนาชุมชนจับมือสถาบันพัฒนา SMEs ปักธงคอตตอนไทยแลนด์แบรนด์

กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ร่วมกับ จัดโครงการ ผ้าทออีสานสู่สากล “WOW E-Sarn” : The Wonder of Weaving, E-Sarn WOW E-SARN งานเดียวที่จะได้พบกับ 500 คุณค่าฝ้ายอีสาน ระดมกูรูชั้นนำปลุกกระแสคุณค่าฝ้ายอีสาน เพิ่มการรับรู้ภาพลักษณ์ที่ดีต่อบุคคลทั่วไปที่สนใจในเรื่องของผ้าไทย รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่ใช้ชีวิตควบคู่กับการใช้สื่อสังคมออนไลน์

นายสมหวัง บางโพธิ์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้ร่วมกับสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมพัฒนา OTOP และสร้างการรับรู้ผ่านผลิตภัณฑ์ในโครงการผ้าทออีสานสู่สากล The Wonder of Weaving, E-Sarn หรือ W.O.W E-Sarn โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญของวงการผ้าทอ ผ้าฝ้ายอีสานที่มุ่งสร้างเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาผู้ประกอบการ OTOP ให้เข้มแข็งก้าวไปสู่สากล รวมไปถึงการอนุรักษ์ภูมิปัญญา คุณค่าของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการปลูก-ปั่นฝ้าย การทอผ้าด้วยลวดลายเทคนิคต่างๆ ที่เป็นอัตลักษณ์ การย้อมสีธรรมชาติ พร้อมทั้งพัฒนาไปสู่เชิงพาณิชย์ เพราะข้อดีของผ้าฝ้ายคือใส่สบาย ระบายอากาศดีเหมาะกับอากาศเมืองไทย เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน อีกทั้งยังดูแลและตัดเย็บง่าย จากสินค้าจะนำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ คอตตอนไทยแลนด์ (Cotton Thailand) ที่จะเป็นการกำหนดตำแหน่งเชิงกลยุทธ์การตลาดของประเทศต่อไป เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่ยอมรับในสากล

ดร. ธนันธน์ อภิวันทนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและการตลาด สถาบันพัฒนาพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สถาบันฯ ได้วางกลยุทธ์รุกตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูงได้แก่ ตลาดเคหะสิ่งทอ ของตกแต่ง ของใช้ในบ้าน-คอนโด โรงแรม-สปา ร้านอาหาร เป็นต้น นอกไปจาก สินค้าดาวรุ่ง กลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย การพัฒนาแบ่งเป็น ๓ กลุ่ม

กลุ่มที่ ๑) กลุ่มที่มีศักยภาพในการส่งออก จำนวน ๙ ราย

กลุ่มที่ ๒) กลุ่มที่มีศักยภาพเป็นสินค้าพรีเมี่ยมระดับประเทศ จำนวน ๑๐๐ ราย

กลุ่มที่ ๓) กลุ่มที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ จำนวน ๓๙๑ ราย

โดยโครงการได้ระดมผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศ อาทิ คุณมีชัย แต้สุจริยา ครูศิลป์ของแผ่นดิน ปี ๒๕๕๙ เจ้าของแบรนด์ “บ้านคำปุน” มาบรรยายและให้ปรึกษา นักออกแบบมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศกว่า ๕๐ ท่าน คณาจารย์จากสถาบันการศึกษา เจ้าของแบรนด์ชื่อดัง มาช่วยสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ให้ OTOP ๕๐๐ ราย ๒๐ จังหวัดทั่วอีสาน ได้แสดงคุณค่าใหม่ อันมีที่มาจากอัตลักษณ์ วิถี ศิลปวัฒนธรรม ผสานการดีไซน์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ลูกค้า และไฮไลท์ที่สำคัญ คือ เชิญนักออกแบบชั้นแนวหน้าของประเทศจีน Ji Cheng (หยี่ เฉิง) ซึ่งมีผลงานโดดเด่นได้รับการยอมรับจากวงการแฟชั่นระดับโลก มาช่วยโค้ชชิ่งการออกแบบให้กับผู้ประกอบการกลุ่มที่ ๑ เพื่อส่งออกตลาดเอเชีย และเจาะช่องทางการขายตลาดจีน อีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีแคมเปญ My Fai, My Style เพราะเรา #รักฝ้าย เชิญชวนคนทั่วไปร่วมกิจกรรมด้วยการสวมใส่ชุดผ้าฝ้าย หรือใช้ผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย แล้วถ่ายรูปลงอินสตาแกรมสวยๆ ติดแฮชแท็ก #รักฝ้าย #MyFaiMyStyle ผู้โชคดี ๓ ท่าน จากแต่ละสัปดาห์ จะได้ร่วมชม Fashion Show ผ้าฝ้ายไทยจากแบรนด์ต่างๆ แบบใกล้ชิด ติดขอบรันเวย์ ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ล พร้อมรับของที่ระลึก

สำหรับผู้ชื่นชอบฝ้ายไทย สามารถพบกับคอลเลคชั่นใหม่ๆ  My Fai ,My Style ได้ที่บ้านฝ้าย สุขสยาม ศูนย์การค้าไอคอนสยามในปลายปีนี้