ร้านยำเสน่ห์ น้ำยำผลไม้ ไม่ใส่ชูรส ตอบรับกระแสคนรักสุขภาพ

ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารยังให้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยธนาคารออมสิน พบว่า ธุรกิจร้านอาหารปี 2562 ขยายตัวเพิ่มขึ้นมีจำนวน15,263 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 จากปี 2561 และจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกในปี 2563 โดยเป็นผลมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายอาหารนอกบ้านหรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมารับประทาน บวกกับเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงอาหารได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบาย อย่างแอพพลิเคชั่นส่งอาหารเดลิเวอรี่ ที่สามารถกดสั่งอาหารได้ง่าย ๆ จากสมาร์ทโฟน

ร้านยำเสน่ห์ เป็นอีกร้านอาหารหนึ่งที่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เอาใจสาวกคนรักสุขภาพแต่ยังต้องการความแซ่บ เชฟชิ้ง  กนกวรรณ อัศวานุชิต เจ้าร้านอาหารไทย รสเสน่ห์ ร.ศ.155 เจ้าของเพจทำอาหารชื่อดัง ‘fashion on food’ หนึ่งในกรรมการตัดสิน รายการอาหารในเวทีระดับนานาชาติ และ เป็นเจ้าของ Cookbook 2 เล่ม  หลังจากที่คว่ำหวอดอยู่ในวงการบล็อกเกอร์อาหาร (Food blogger) จึงผันตัวมาเป็นเจ้าของกิจกาจรยำเสน่ห์ ที่ได้พาร์ทเนอร์ดีอย่างภัตตาคารจีนฮองมิน (Hongmin) ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง และยังได้ทีมการสื่อสาร (Communication) บริษัท โน้ตเอเบิ้ล แบงค์คอก จำกัด มาร่วมเสริมทัพให้แข็งแกร่งอีกด้วย  

เชฟชิ้งเล่าว่า จากเดิมที่ทำร้านอาหารไทย รสเสน่ห์ ร.ศ. 155 ข้าวแกงไทยโบราณ มาสักพัก ผู้ใหญ่ได้เล็งเห็นถึงฝีมือการทำอาหาร จึงเปิดโอกาสให้ขยายกิจการ เกิดเป็น ร้านยำเสน่ห์ โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากร้านยำทั่วไป คือ เป็นร้านแบบออนทัวร์ น้ำยำน้ำผลไม้ไม่ใส่ผงชูรส ปลาร้า และไม่ปลาร้า คัดสรรวัตถุดิบ  อีกทั้งยังมีครัวกลางที่สะอาด ที่ช่วยให้การทำอาหารสะดวกต่อผู้บริโภคมากขึ้น และยังได้คิดค้นเมนูใหม่ ๆ สไตล์ตนเอง ไม่เหมือนใคร อาทิ ยำสามชั้นทอดน้ำปลา ยำหมูทอด ยำไก่ทอด ยำหมูกรอบ และจะยังคิดค้นเมนูใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับร้าน เชฟชิ้งกล่าว